วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ


  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เป็นหนึ่งในเก้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มีฐานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ    มีพื้นที่จัดการศึกษา ๔ แห่งคือ  

สำนักงานอธิการบดี ตั้งอยู่ที่ ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ศูนย์วาสุกรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ศูนย์นนทบุรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี และ
ศูนย์สุพรรณบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลย่านยาว อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี
๑. ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย
 แต่เดิมพื้นที่จัดการศึกษา จำนวน ๓ แห่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เป็นวิทยาลัยในสังกัดกรมอาชีวศึกษา ประกอบด้วย วิทยาลัยเกษตรกรรมพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยพณิชยการพระนครศรีอยุธยา และวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้มีพระราชบัญญัติโอนกิจการบางส่วนของกรมอาชีวศึกษาไปเป็นของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษารวม ๒๘ แห่ง ซึ่งรวมวิทยาลัยทั้ง ๓ แห่ง ดังกล่าวด้วย พร้อมกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการเปลี่ยนชื่อสถานศึกษาและตั้งเป็น วิทยาเขตทั้ง ๒๘ แห่งในปีเดียวกัน ดังนั้น วิทยาเขตเกษตรพระนครศรีอยุธยา วิทยาเขตพณิชยการพระนครศรีอยุธยา และวิทยาเขตเทคนิคนนทบุรี จึงสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ซึ่งมีฐานะเป็นกรมในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นต้นมา ต่อมาในปี ๒๕๓๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ว่า “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล” และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศเปลี่ยนชื่อวิทยาเขตในสังกัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เฉพาะวิทยาเขตในส่วนภูมิภาค รวม ๑๗ วิทยาเขต  ส่งผลให้ ทั้ง ๓ วิทยาเขตเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น  วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยาวาสุกรี และวิทยาเขตนนทบุรี ตามลำดับ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้มีประกาศจัดตั้งวิทยาเขตสังกัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล จำนวน ๕ แห่ง คือวิทยาเขตเชียงราย วิทยาเขตสกลนคร วิทยาเขตสุพรรณบุรี วิทยาเขตศาลายา และวิทยาเขตศรีวิชัย นับเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิด วิทยาเขตสุพรรณบุรีซึ่งเป็นพื้นที่จัดการศึกษา แห่งที่ ๔ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้ขยายการศึกษาออกไปในส่วนภูมิภาคต่าง ๆ จนถึง ๓๕ วิทยาเขต รวมทั้งมีศูนย์กลางการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และมีการจัดการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรีและปริญญาตรี ในทุกวิทยาเขต
 การจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในวิทยาเขตต่าง ๆ มีปัญหาในด้านการบริหารจัดการค่อนข้างมาก เพราะแม้ว่าวิทยาเขตจะเปิดสอนระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาต่าง ๆ ได้ แต่ก็เป็นการเปิดในนามของคณะซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางฯ จังหวัดปทุมธานีเป็นหลัก ทำให้ขาดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้บริการสนองตอบความต้องการของประชาชนในแต่ละภูมิภาค ดังนั้นหลังจากที่ประเทศไทยมีกฎหมายการศึกษาฉบับแรก คือ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ส่งผลให้สถาบันอุดมศึกษาที่เปิดสอนระดับปริญญามาอยู่ในสังกัดเดียวกัน คือ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลจึงได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมีการรวมกลุ่มวิทยาเขตในสังกัดซึ่งอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ออกเป็น ๙ กลุ่ม และเสนอพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เพื่อจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จำนวน  ๙  แห่ง โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจำนวน ๙ แห่งนั้น ซึ่งเกิดจากการรวมทั้ง ๔ วิทยาเขตเข้าด้วยกัน คือ วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา วาสุกรี วิทยาเขตนนทบุรี และวิทยาเขตสุพรรณบุรี โดยมีที่ตั้งสำนักงานอธิการบดี อยู่ในพื้นที่วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา และหลังจากที่กฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการระดับคณะ สถาบัน สำนัก ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มีผลใช้บังคับแล้ว ทั้ง ๔ แห่ง วิทยาเขตได้หลอมรวมเป็นมหาวิทยาลัย โดยจัดตั้งคณะ สถาบัน สำนัก ลงในพื้นที่ทั้ง ๔ วิทยาเขตแทนและเพื่อให้สะดวกในการสื่อสาร ระหว่างภายในองค์กรและภายนอกองค์กร จึงเรียกทั้ง ๔ พื้นที่ว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์วาสุกรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี ตามลำดับ
๒. ประวัติความเป็นมาของพื้นที่จัดการศึกษาทั้ง ๔ แห่ง ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ซึ่งประกอบด้วย วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา, วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา วาสุกรี, วิทยาเขตนนทบุรี และวิทยาเขตสุพรรณบุรี
  ๒.๑ ประวัติความเป็นมาของวิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา เริ่มแรกก่อตั้งเป็นโรงเรียนประถมวิสามัญเกษตรกรรมเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๖ ณ ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้ย้ายไปอยู่ในหมู่ที่ ๘ ถนนป่าโทน ตำบลประตูชัย ในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเกษตรกรรมอยุธยา และรับนักเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มาเรียนต่ออีก ๒ ปี และอบรมเพิ่มเติมอีก ๑ ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ได้ขยายเปิดรับนักเรียนเกษตรกรรมชั้นกลาง (มีสิทธิเทียบเท่ากับนักเรียนที่จบหลักสูตรครูมูลหรือ ม. ๖ ในสมัยนั้น) ในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ได้ขยายการจัดการเรียนการสอนมาเป็นหลักสูตร ประโยคอาชีวชั้นสูง แผนกเกษตรกรรม (ม.ศ. ๖ แผนกเกษตรกรรม) และในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ได้ขยายการจัดการเรียนการสอนมาเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แผนกเกษตรกรรม และยกฐานะเป็นวิทยาลัยเกษตรกรรม สังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการชื่อวิทยาลัยเกษตรพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งปรับปรุงหลักสูตร ม.ศ. ๖ แผนกเกษตรกรรม เป็นหลักสูตรประโยควิชาชีพ (ปวช.) ในปีเดียวกันนี้มีการย้ายสถานที่ตั้งของวิทยาเขตฯ มา ณ ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในระยะแรกใช้พื้นที่ทั้งสองส่วนคือตำบลประตูชัย และตำบลหันตรา ในการจัดการเรียนการสอน จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้ย้ายส่วนของการเรียนการสอนมา ณ ตำบลหันตรา และได้จัดการศึกษาลักษณะโพลีเทคนิค โดยเปิดสอนหลักสูตร ปวส. สาขาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล และได้เปลี่ยนชื่อวิทยาเขตเกษตรพระนครศรีอยุธยาเป็น “วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา” รวมทั้งได้ขยายการจัดการศึกษาถึงระดับปริญญาตรีจวบจนถึงปัจจุบันนี้
 ๒.๒ ประวัติความเป็นมาของวิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา วาสุกรี วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา วาสุกรี ตั้งอยู่เลขที่ ๑๙ หมู่ ๓ ถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมเป็นโรงเรียนการช่างสตรี ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๑ โดยเปิดสอนชั้นมัธยมการช่างสตรี ในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ และต่อมามีการเปิดสอนระดับอาชีวศึกษาชั้นสูง ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ โรงเรียนการช่างสตรีได้เปิดสอนวิชาพณิชยการเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน โดยเปลี่ยนจากโรงเรียนการช่างสตรีเป็นโรงเรียนพณิชยการชื่อว่า โรงเรียนพณิชยการวาสุกรี สังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้โอนจากกรมอาชีวศึกษาไปสังกัดวิทยาบัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ สภาวิทยาลัย เทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้อนุมัติให้เปิดสอนระดับปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ วิชาเอกการบัญชีหลักสูตร ๒ ปีต่อเนื่อง นับเป็นการศึกษาระดับปริญญาตรีรุ่นแรก วันที่ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๑ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้พระราชทานนามใหม่ว่า สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล และเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ วิทยาเขตพณิชยการพระนครศรีอยุธยา ได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา วาสุกรี ตามชื่อตำบลที่ตั้งจนถึงปัจจุบัน
 ๒.๓ ประวัติความเป็นมาของวิทยาเขตนนทบุรี วิทยาเขตนนทบุรี แรกเริ่มก่อตั้ง มีสถานศึกษาอยู่ ๒ แห่ง จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๑๘ กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศให้รวมโรงเรียนช่างกลนนทบุรีและโรงเรียน การช่างนนทบุรีเป็นวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี ซึ่ง ๒ โรงเรียนนี้ ตั้งอยู่ ถนนนนทบุรี ๑ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีอยู่ห่างกันประมาณ ๑ กิโลเมตร ต่อมาได้โอนมาสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี มีพื้นที่จัดการศึกษา ๒ เขต คือ ๑. เขตเหนือ อยู่ตรงข้ามวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ถนนนนทบุรี ๑ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ๒. เขตใต้ อยู่ติดกับวัดท้ายเมือง ถนนนนทบุรี ๑ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี วิทยาเขตฯ เปิดสอนหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตร ๒ ปี รอบบ่าย แผนกช่างเครื่องกล ช่างกลโรงงาน ช่างโลหะ ช่างไฟฟ้ากำลัง ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างโยธา ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการโอนวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรีมาสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวศึกษาและให้ชื่อใหม่ว่า “วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตเทคนิคนนทบุรี” เปิดสอนหลักสูตรระดับประกาศนียบัตร (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ซึ่งรับจากผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปวช. เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๓๒ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อวิทยาเขตเทคนิคนนทบุรีใหม่เป็น “วิทยาเขตนนทบุรี” และได้ขยายการจัดการศึกษา ถึงระดับปริญญาตรีจวบจนถึงปัจจุบัน
 ๒.๔ ประวัติความเป็นมาของวิทยาเขตสุพรรณบุรี วิทยาเขตสุพรรณบุรี เป็นสถาบันการศึกษาสายวิชาชีพ สังกัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลกระทรวงศึกษาธิการ ได้เริ่มดำเนินการก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ จากแนวความคิดของ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๑ ของประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรีในขณะนั้น ได้ร้องขอให้กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้ง สถาบันการศึกษาระดับสูง สังกัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลที่จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยพิจารณาเห็นว่าสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เป็นสถาบันการศึกษาที่มีความหลากหลายในการจัดการเรียน การสอนสาขาวิชาชีพ ทั้งในระดับต่ำกว่าปริญญา และปริญญาตรี ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งจังหวัดสุพรรณบุรีมีเส้นทางในการคมนาคมที่สะดวกและติดต่อกับจังหวัดที่มีความเจริญด้านอุตสาหกรรม เช่น กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท และเพื่อเป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษาออกสู่ชนบท ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ โดย ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐนมตรีคนที่ ๒๑ ของประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุพรรณบุรี มีพื้นที่แบ่งเป็น ๒ เขต คือ เขตที่ ๑ มีพื้นที่ ประมาณ ๑๐๓ ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ ๔๕๐ หมู่ ๖ ถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท ตำบลย่านยาว อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่จัดการเรียนการสอนในคณะวิชาบริหารธุรกิจ คณะวิชาไฟฟ้า คณะวิชาโยธา และเขตที่ ๒ มีพื้นที่ ๔๐๑ ไร่ อยู่ห่างจากพื้นที่ เขตที่ ๑ ประมาณ ๒ กม. เป็นพื้นที่จัดการเรียนการสอนในคณะวิชาไฟฟ้าและคณะวิชาเครื่องกล เริ่มเปิดรับนักศึกษาระดับ ปริญญาตรี ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๒ เป็นต้นมา


ราชมงคล นามพระราชทาน


 จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา สู่นามพระราชทาน "สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล" ซึ่งได้กำหนดให้ วันที่ ๑๕ กันยายนของทุกปี เป็นวัน "ราชมงคล" และจากนั้นจนถึงปี ๒๕๔๘ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลก็ได้รับการสถาปนาเป็น "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล" รวม ๙ แห่ง โดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้ทรงลงประปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติดังกล่าว และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิก็เป็นหนึ่งในเก้ามหาวิทยาลัยนั้น ชาวราชมงคลสุวรรณภูมิทุกคนต่างรู้สึกปีติยินดีที่ได้มีโอกาสอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภารด้วยความเป็นมงคลตลอดมา จึงขอเทิดนามพระราชทานนี้ไว้เหนือกระหม่อมด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และจักธำรงรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศ บำเพ็ญประโยชน์เพื่อเพิ่มพูนพระบารมี สนองงานต่างพระเนตรพระกรรณ ด้านการอุดมศึกษา สร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อถวายเป็นพระราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์ผู้สถิตอยู่ในดวงใจของชาวราชมงคลสุวรรณภูมิและชาวไทยทุกคน

เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ เป็นจุดเริ่มของการก่อกำเนิด "วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา" ซึ่งตามพระราชบัญญัติการจัดตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้ ได้ระบุวัตถุประสงค์ไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาชีพ จัดการศึกษาในระดับปริญญาตรีและต่ำกว่าปริญญาตรี ทำการวิจัยและให้บริการวิชาการ จากการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาส่งผลให้ จากเดิมซึ่งมีวิทยาเขตอยู่ทั่วประเทศ ๒๘ วิทยาเขต ขยายเพิ่มเป็น ๓๕ วิทยาเขต ในระยะเวลาต่อมาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน ในช่วงการพัฒนาที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ของสถาบันการศึกษาแห่งนี้ กล่าวคือ ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ และด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระเมตตาต่อวิทยาลัยฯ โดยการเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาด้วยพระองค์เองทุกครั้ง สภาวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาในขณะนั้น จึงพิจารณาเห็นสมควรขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตขอพระราชทานชื่อวิทยาลัยฯ ตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ จุดกำเนิดของความเป็น "ราชมงคล : นามพระราชทาน" จึงเกิดขึ้น ด้วยมีหนังสือแจ้งจากสำนักราชเลขาธิการที่ รล ๐๐๓/๑๖๙๔๒ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๓๑ แจ้งว่า ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า "สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล" กับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เขียนชื่อว่าสถาบันที่ได้รับพระราชทานนี้ เป็นภาษาอังกฤษว่า "Rajamangala Institute of Technology" ในเวลาต่อมา
สีประจำมหาวิทยาลัย
  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ กำหนดสีทอง เป็นสีประจำมหาวิทยาลัยตามความหมายของ สุวรรณภูมิ ซึ่งหมายถึง แผ่นดินทอง หรือดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง เจริญรุ่งเรือง มีค่าประดุจทองคำ
  ที่มาของชื่อ "สุวรรณภูมิ" จากผลการศึกษาค้นคว้าเรื่อง "สุวรรณภูมิ" โดยนักปราชญ์ราชบัณฑิตติดต่อกันนานเกือบศตวรรษ ควรค่าแก่การสรุปได้ว่า เมื่อราวต้นพุทธกาล มีดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำในภาคกลางของประเทศไทย เป็นประตูแรกที่เปิดรับอารยธรรมโลกภายนอกสู่ดินแดนสุวรรณภูมิจากผู้คนที่มีจิตใจมุ่งหวังและเปิดกว้างด้วยสันถวไมตรี วิถีสันติและสติปัญญา ดังนั้นการนำชื่อ "สุวรรณภูมิ" มาเป็นชื่อเฉพาะของมหาวิทยาลัยฯ จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะมหาวิทยาลัยฯ มีเขตพื้นที่จัดการศึกษาอยู่ใน ๓ จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งยังตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ขณะเดียวกัน ชื่อ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จะเป็นสื่อให้ประชาคมทั้งหลายทราบว่า มหาวิทยาลัยฯ คือ แหล่งรวมสรรพวิทยาการ ผู้ทรงคุณความรู้ ผู้เข้ามาแสวงหาความรู้ และเปิดรับองค์ความรู้จากโลกภายนอกมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างกว้างขวาง ด้วยไมตรีจิต สันติสุขและสติปัญญาอย่างแท้จริง


ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เลือก ต้นลีลาวดีสุวรรณภูมิ เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ซึ่งมีความทนทานต่อทุกฤดูกาล ยิ่งมีอายุยืนยาวยิ่งมีคุณค่า ลีลาวดีสุวรรณภูมิ มีดอกสีเหลืองทอง กลิ่นหอมจรุงใจ จึงหมายความว่า ชาวสุวรรณภูมิทุกคน จะมีความอดทน มีความดีงาม มีคุณค่า ประดุจต้นลีลาวดีสุวรรณภูมิ นั่นเอง





วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตรามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.gif


ประวัติ[แก้]

มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครเป็นมหาวิทยาลัยด้านการฝึกหัดครูที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย[1] ได้รับการสถาปนาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในนาม "โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์" สังกัดกระทรวงธรรมการ ทำหน้าที่ผลิตครูเพื่อรองรับการขยายตัวของการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียน
เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435 เป็นสถานศึกษาด้านการฝึกหัดครูแห่งแรกของประเทศไทยมีมิสเตอร์กรีนรอด ชาวอังกฤษเป็นอาจารย์ใหญ่คนเแรก โดยมีที่ตั้งครั้งแรกอยู่ในบริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง จากนั้นก็ได้ย้ายไปสถานที่ตั้งไปอีกหลายแห่ง
ในปี พ.ศ. 2449 มีการปรับปรุงหลักสูตรให้กว้างขวางขึ้น และให้นับเป็นโรงเรียนขั้นอุดมศึกษา และในปี พ.ศ. 2456 ได้รวมเป็นแผนกหนึ่งของโรงเรียนข้าราชการพลเรือน เรียกว่า แผนกครุศึกษา แต่ยังอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกระทรวงธรรมการ
พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการประกาศประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ จึงเป็นแผนกครุศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเมื่อมีการสถาปนากรมมหาวิทยาลัยขึ้นแล้วรวมโรงเรียนข้าราชการพลเรือนทุกแผนกขึ้นกับกรมนี้ กระทรวงธรรมการจึงได้ย้ายโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ไปสังกัดกรมศึกษาธิการ แผนกวิชาสามัญศึกษา
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2461 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์เป็น "โรงเรียนฝึกหัดครู" เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) และได้ย้ายไปตั้งที่พระราชวังสนามจันทร์จังหวัดนครปฐม ในปี พ.ศ. 2475 เรียกว่า "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมพระราชวังสนามจันทร์" และโดยที่ภายในพระราชวังสนามจันทร์มีศาลพระพิฆเนศวรอยู่แล้ว ทางโรงเรียนจึงได้นำรูปพระพิฆเนศวรมาเป็นตราและสัญลักษณ์ของโรงเรียน
พ.ศ. 2477 ได้ย้ายโรงเรียนจากพระราชวังสนามจันทร์มาตั้งที่กองพันทหารราบที่ 6 ถนนศรีอยุธยา หลังวังปารุสกวัน (ปัจจุบันคือ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์) จึงเรียกชื่อโรงเรียนว่า "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมพระนคร" และ พ.ศ. 2490 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนฝึกหัดครูพระนคร" ผลิตครูตามหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) ใช้เวลา 3 ปี
พ.ศ. 2498 โรงเรียนฝึกหัดครูพระนครได้ใช้หลักสูตรใหม่ คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษา (ป.กศ.) เวลาเรียน 2 ปี แทนหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคครูประถมเดิม เพื่อเร่งรัดการผลิตครูให้ทันกับความต้องการ
1 มิถุนายน พ.ศ. 2499 ได้ย้ายโรงเรียนมาเช่าที่ดินวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ณ อาคารเลขที่ 3 หมู่ที่ 6 ตำบลอนุสาวรีย์ ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร อันเป็นที่ตั้งปัจจุบันโดยยังเช่าที่ดินวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ต่อมาจนปัจจุบัน
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 กระทรวงศึกษาธิการได้ยกฐานะโรงเรียนฝึกหัดครูพระนคร ขึ้นเป็น "วิทยาลัยครูพระนคร" ทำให้สามารถเปิดหลักสูตประกาศนียบัตรวิชาการศึกศสชั้นสูง (ป.กศ.สูง) ได้ และเพื่อสนองความต้องการของโรงเรียนมัธยมแบบประสม วิทยาลัยจึงได้เปิดวิชาเอกอุตสาหกรรมศิลป์ โดยรับนักเรียนที่จบ ป.กศ. มาเรียนวิชาช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างโลหะ ช่างก่อสร้าง และช่างปั้นดินเผา ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 จึงได้เปิดสอนวิชาอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก
พ.ศ. 2517 ได้เปิดหลักสูตรประโยคครูอุดมศึกษา (ป.อ.) โดยใช้หลักสูตรของวิทยาลัยวิชาการศึกษา โดยรับผู้สำเร็จ ป.กศ.สูง หรืออนุปริญญา เรียน 2 ปี เมื่อสำเร็จจะได้ปริญญาการศึกษาบัณฑิต
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู ซึ่งมีผลทำให้วิทยาลัยครูทั้ง 36 แห่งทั่วประเทศสามารถเปิดสอนได้ถึงระดับปริญญาตรี จึงได้รับการปรับหลักสูตรประโยคครูอุดมศึกษา เป็นหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต
พ.ศ. 2521 วิทยาลัยครูพระนคร เปิดโครงการฝึกอบรมครูประจำการ (อ.ค.ป.) ร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัด พร้อมกับเลิกการผลิตครูระดับป.กศ.สูง และระดับปริญญาตรีครุศาสตรบัณฑิตเพิ่มขึ้น และในปี พ.ศ. 2523 ก็ได้เปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีคุรศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 4 ปี เป็นรุ่นแรก
พ.ศ. 2527 ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู (ฉบับที่ 2) ซึ่งเป็นฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ทำให้วิทยาลัยครูสามารถเปิดสอนสาขาวิชาอื่นนอกเหนือจากวิชาชีพครู โดยสภาการฝึกหัดครูอนุมัติให้เปิดสอนใน 3 สาขา คือ สาขาวิชาการศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาศิลปศาสตร์ และในปีการศึกษา 2528 ก็ได้เปิดรับนักศึกษาสำหรับบุคลากรประจำการ (กศ.บป.) ทั้งสายวิชาชีพครูและสายวิชาการอื่น จากนั้นก็ได้มีการขยายและพัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อสนองความต้องการของท้องถิ่น และประเทศชาติมาโดยลำดับ
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" เป็นชื่อสถาบันการศึกษาในสังกัดกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งยังได้พระราชทานตราพระราชลัญจกรให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏด้วย และเมื่อได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2538 วิทยาลัยครูพระนคร จึงได้ชื่อว่า "สถาบันราชภัฏพระนคร" และมีภารกิจตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538 คือ "เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ผลิตครู และส่งเสริมวิทยฐานะครู"

เมื่อ พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ[2] ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลให้ "สถาบันราชภัฎพระนคร" ได้ชื่อใหม่ว่า "มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร" ตั้งแต่ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา

สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร[แก้]

  • สีน้ำเงิน แทนค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิด และพระราชทาน “มหาวิทยาลัยราชภัฎ”
  • สีเขียว แทนค่าแหล่งที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏ 40 แห่งในแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
  • สีทอง แทนค่าความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา
  • สีส้ม แทนค่าความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ก้าวไกลใน 40 มหาวิทยาลัยราชภัฏ
  • สีขาว แทนค่าความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

สีประจำมหาวิทยาลัย[แก้]

สีประจำสถาบัน สีเขียว
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ต้นปีป หรือกาซะลอง ภาษาอีสานเรียก ดอกกางของ

คณะ และ วิทยาลัย[แก้]

  • วิทยาลัยการฝึกหัดครู
  • พุทธวิชชาลัย(วิทยาลัยพุทธศาสตร์และปรัชญา วัดพระศรีมหาธาตุ)
  • คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • คณะวิทยาการจัดการ
  • คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
  • คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
  • บัณฑิตวิทยาลัย

สถาบัน/ศูนย์และหน่วยงานในมหาวิทยาลัย[แก้]

  • สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
  • สมาคมศิษย์เก่ารัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
  • สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • ศูนย์ภาษาและอาเซี่ยนศึกษา
  • ศูนย์ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
  • ศูนย์ประสานราชการใสสะอาด
  • ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมราชภัฎพระนคร
  • โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
  • โรงเรียนสาธิตอนุบาลเชิงพุทธ
  • องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
  • ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
  • ภาควิชาเทคโนโลยีภูมิศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
  • สาขาวิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

การเดินทาง[แก้]

รถโดยสารประจำทาง[แก้]


ถนนพหลโยธิน (ประตูฌาปนสถานกองทัพอากาศ[วัดพระศรีมหาธาตุฯ])[แก้]

  • รถโดยสารประจำทางสาย 26 มีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • รถโดยสารประจำทางสาย 34 รังสิต-หัวลำโพง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 39 ตลาดไท-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • รถโดยสารประจำทางสาย 51 ปากเกร็ด-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • รถโดยสารประจำทางสาย 59 รังสิต-หลักสี่-สนามหลวง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 95 อู่บางเขน-มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 95ข อู่บางเขน-CDC-บางกะปิ-มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 107 อู่บางเขน-คลองเตย(ทางด่วน)
  • รถโดยสารประจำทางสาย 114 อู่นครอินทร์-แยกลำลูกกา
  • รถโดยสารประจำทางสาย 129 อู่บางเขน-สำโรง(ทางด่วน)
  • รถโดยสารประจำทางสาย 196 อู่บางเขน-MRTลาดพร้าว-โชคชัย4(วงกลม)
  • รถโดยสารประจำทางสาย 503 รังสิต-สะพานใหม่-สนามหลวง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ(ทางด่วน)
  • รถโดยสารประจำทางสาย 524 หลักสี่-สามเสน-สนามหลวง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 543 อู่บางเขน-ลำลูกกาคลอง7-กรมการปกครอง(คลอง9)
  • รถโดยสารประจำทางสาย 543ก ท่าน้ำนนทบุรี-อู่บางเขน

ถนนแจ้งวัฒนะ[แก้]

  • รถโดยสารประจำทางสาย 26 มีนบุรี-ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ(เสริม)
  • รถโดยสารประจำทางสาย 51 ปากเกร็ด-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • รถโดยสารประจำทางสาย 59 รังสิต-หลักสี่-สนามหลวง
  • รถโดยสารประจำทางสาย 95ก รังสิต-บางกะปิ
  • รถโดยสารประจำทางสาย 150 ปากเกร็ด-บางกะปิ
  • รถโดยสารประจำทางสาย 356 ปากเกร็ด-สะพานใหม่-ดอนเมือง(วงกลม)/ตลาดนนทบุรี-แยกลำลูกกา
  • รถโดยสารประจำทางสาย 524 หลักสี่-สามเสน-สนามหลวง
  • รถโดยสารสวัสดิการทหารอากาศ สาย สะพานใหม่-ดอนเมือง(วงกลม)

รถไฟฟ้า (อนาคต)[แก้]

รถไฟฟ้าสายสีชมพู[แก้]
รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (BTS สายสุขุมวิท)[แก้]

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557







มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (อังกฤษSuan Sunandha Rajabhat University) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วังสวนสุนันทา อันเคยเป็นเขตพระราชฐานของพระราชวังดุสิตในรัชกาลที่ 5 มาก่อน นักเรียนและนักศึกษามหาวิทยาราชภัฏสวนสุนันทาทุกคนจะใช้คำแทนตัวเอง ว่า"ลูกพระนาง" ซึ่งพระนางในที่นี้ หมายถึง สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีรากฐานมาจากการสถาปนา "โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย" เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 เปิดสอน ประกาศนียบัตรประโยคครูประถม (ป.ป.) ต่อมาจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยครูสวนสุนันทา" ในปี พ.ศ. 2518 ตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518 เปิดสอนถึงระดับปริญญาตรี หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต
ในปี พ.ศ. 2535 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "สถาบันราชภัฏ" เป็นชื่อสถาบันการศึกษาในสังกัดกรมการฝึกหัดครูกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งยังได้พระราชทานตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏ และเมื่อได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2538 วิทยาลัยครูสวนสุนันทาจึงมีชื่อเป็น "สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา"
ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ยังผลให้สถาบันราชภัฏสวนสุนันทายกฐานะเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ปรัชญา & เป้าหมายและวิสัยทัศน์[แก้]

  • ปรัชญา : ทรงปัญญา ศรัทธาธรรม นำสังคม
  • เป้าหมายและวิสัยทัศน์ : มหาวิทยาลัยคุณภาพชั้นนำ เพื่อปวงชน

อัตลักษณ์และเอกลักษณ์[แก้]

  • อัตลักษณ์ เป็นนักปฏิบัติ ถนัดวิชาการ เชี่ยวชาญการสื่อสาร ชำนาญการคิด มีจิตสาธารณะ (Professional practitioners, academic excellence, intelligent communicators, and strategic thinkers with public awareness)
  • เอกลักษณ์ เน้นความเป็นวัง ปลูกฝังองค์ความรู้ ยึดมั่นคุณธรรมให้เชิดชู เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้สู่สากล (Focus on royal traditions, knowledge cultivation, ethical enhancement, as an international learning organization)
นิยามความหมายของอัตลักษณ์และเอกลักษณ์[แก้]
เป็นนักปฏิบัติ หมายถึง บัณฑิตที่มีความสามารถด้านวิชาการหรือวิชาชีพ มีทักษะและมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน สามารถใช้หลักวิชาการด้วยความชำนาญ มีคุณธรรม ใฝ่ศึกษาเรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
จิตสาธารณะ หมายถึง บัณฑิตที่มีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น มุ่งทำความดีที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ
เชี่ยวชาญการสื่อสาร หมายถึง บัณฑิตที่มีทักษะการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ สามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรู้ความชำนาญในสาขาวิชาที่ศึกษา โดยใช้ระบบเครือข่ายและเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยสู่ชุมชนและสังคม
เน้นความเป็นวัง หมายถึง เป็นมหาวิทยาลัยที่สืบสานความเป็นวังสวนสุนันทา เน้นการอนุรักษ์ เผยแพร่ และเป็นแหล่งเรียนรู้ข้อมูลศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ โดยเฉพาะศิลปวัฒนธรรมกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้สู่สากล หมายถึง เป็นมหาวิทยาลัยที่มีแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลายทันสมัย สามารถแข่งขันได้ในระดับชาติและนานาชาติ ตอบสนองทุกรูปแบบการเรียนรู้ของผู้รับบริการได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

เพลงประจำมหาวิทยาลัย[แก้]

  • ร่มโพธิ์ทอง
  • มาร์ชสวนสุนันทา

สีประจำมหาวิทยาลัย[แก้]

  • สีน้ำเงิน หมายถึง สีประจำองค์พระมหากษัตริย์
  • สีชมพู หมายถึง สีประจำวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย[แก้]


ดอกแก้วเจ้าจอม
ต้นแก้วเจ้าจอม เหตุที่ชื่อ “แก้วเจ้าจอม” เพราะเป็นไม้ของเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ในครั้งรัชสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระราชดำริสร้างสวนสุนันทาขึ้นเป็นที่ ระลึกถึงพระมเหสี คือ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ปัจจุบันต้นกำเนิดต้นนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี และมีอยู่ต้นเดียวในประเทศไทย เป็นต้นไม้หายาก ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงได้พันธุ์มาเมื่อคราวเสด็จประพาสประเทศอินโดนีเซีย มาปลูกไว้ในวังสวนสุนันทา ปัจจุบันคือ “มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา” ต้นแก้วเจ้าจอม มีลักษณะใบประกอบ 2 คู่ ได้ถูกจัดลำดับเป็นพันธุ์พืชอนุรักษ์ในบัญชี 2 ภายใต้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2525

คณะต่างๆของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

1.สำหรับปริญญาตรี

คณะครุศาสตร์[แก้]

  • สาขาวิชาสังคมศึกษา
  • สาขาวิชาภาษาไทย
  • สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์

  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์
  • สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย
  • สาขาวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยี (หลักสูตร 4 ปี)

คณะวิทยาการจัดการ[แก้]

  • สาขาวิชาการบัญชี
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)  : ปัจจุบันใช้ชื่อ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (การเงินการธนาคาร) : ปัจจุบันใช้ชื่อ สาขาวิชาการเงินการธนาคาร
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (ธุรกิจระหว่างประเทศ) : ปัจจุบันใช้ชื่อ สาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (การตลาด) : ปัจจุบันใช้ชื่อ สาขาวิชาการตลาด
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (บริหารทรัพยากรมนุษย์) : ปัจจุบันใช้ชื่อ สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรมนุษย์
  • สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ
  • สาขาวิชาการจัดการธุรกิจบริการ
  • สาขาวิชาการประกอบการธุรกิจ
  • สาขาวิชาวารสารสนเทศ (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาโฆษณาและการสื่อสารการตลาด (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียง (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาวิทยุโทรทัศน์ (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาการภาพยนตร์และการสื่อสารการแสดง (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาภาพเคลื่อนไหวและสื่อผสม (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
  • สาขาวิชาการสื่อสารผ่านสื่อใหม่ (หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต)
    • อาจมีการจัดตั้งสาขาวิชาดิจิทอลทีวี เพิ่มเติมในอนาคต

คณะศิลปกรรมศาสตร์[แก้]

  • สาขาวิชาการออกแบบ (นิเทศศิลป์)
  • สาขาวิชาการออกแบบ (เครื่องแต่งกาย)
  • สาขาวิชาจิตรกรรม
  • สาขาวิชาการออกแบบ (ออกแบบหัตถศิลป์สร้างสรรค์)
  • สาขาวิชาศิลปะการแสดง (นาฎศิลป์ไทย)
  • สาขาวิชาศิลปะการแสดง (ศิลปะการละคร)
  • สาขาวิชาดนตรี (ดนตรีไทย/ดนตรีสากล)

คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม[แก้]

  • สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรอาคาร
  • สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรม
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีการพิมพ์
  • สาขาวิชาออกแบบสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่องานสถาปัตยกรรม
  • สาขาวิชามาตรวิทยาและระบบคุณภาพ
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีไฟฟ้าอุตสาหกรรม
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
  • สาขาวิชาออกแบบกราฟิกและมัลติมิเดีย
  • สาขาวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
  • สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
  • สาขาการออกแบบตกแต่งภายในและนิทรรศการ
  • สาขาวิชาสถาปัตยกรรม

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี[แก้]

  • สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์
  • สาขาวิชาเคมี
  • สาขาวิชาชีววิทยา
  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์สารสนเทศ
  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
  • สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
  • สาขาวิชาสถิติประยุกต์ (การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ)
  • สาขาวิชาสถิติประยุกต์ (ธุรกิจการเงิน)
  • สาขาวิชาสถิติประยุกต์ (การจัดการคุณภาพ)
  • สาขาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (การจัดการฐานข้อมูล)
  • สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (สื่อประสม)

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์[แก้]

  • สาขาวิชาภาษาไทย
  • สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
  • สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ
  • สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น
  • สาขาวิชาภาษาจีน
  • สาขาวิชาภูมิศาสตร์และภูมิสารสนเทศ
  • สาขาวิชาการจัดการทางวัฒนธรรม
  • สาขาวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ภาษาจีน,ภาษาญี่ปุ่น,ภาษาฝรั่งเศส)
  • สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและธุรกิจที่พัก
  • สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์
  • สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมสังคม
  • สาขาวิชาการจัดการสารสนเทศ
  • สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (แขนงการบริหารภาครัฐและเอกชน,แขนงการบริหารปกครองท้องถิ่น,แขนงการบริหารงานยุติธรรม และยุทธศาสตร์การพัฒนาฯ) ปัจจุบันได้แยกออกมาเป็น สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น และ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
  • สาขาวิชานิติศาสตร์
  • สาขาวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ (แขนงวิชา ธุรกิจนำเที่ยว,ธุรกิจการบิน,การประชุมนิทรรศการ และ อีก 2 สาขา)



วิทยาลัยต่างๆ ในกำกับของมหาวิทยาลัย (รูปแบบการบริหารเหมือน มหาวิทยาลัยในกำกับฯ)[แก้]

วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ[แก้]

  • สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์

วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ[แก้]

  • สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
  • สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (การปกครองท้องถิ่น)
  • สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (การจัดการการคลัง)
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ
  • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (ปริญญาต่อเนื่องไป)
  • สาขาวิทยาการการจัดการโลจิสติกส์
  • สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรม
  • สาขาวิชานิติศาสตร์
  • สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน
  • สาขาวิชาภาษาจีน

วิทยาลัยสหเวชศาสตร์[แก้]

  • สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ (การดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุ)
  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ความงามและสปา
  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพการกีฬา
  • สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (เปิดรับปีการศึกษา 56 เป็นปีแรก)

วิทยาลัยนานาชาติ (หลักสูตรนานาชาติ)[แก้]

  • สาขาวิชาธุรกิจการบิน (Airline Business)
  • สาขาวิชาธุรกิจภัตตาคารและที่พัก (Hotel and Restaurant Business)
  • สาขาวิชาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Industry)
  • สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยว (Hospitality and Tourism Management)
  • สาขาวิชาบริการธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business)

วิทยาลัยการภาพยนตร์ ศิลปะการแสดง และสื่อใหม่ (หลักสูตรนานาชาติ)[แก้]

  • หลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขาวิชาการสร้างภาพยนตร์ (Film Production)
  • หลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขาวิชาการสร้างสรรค์และสื่อดิจิทัล(Creativity and Digital Media)
  • หลักสูตรศิลปบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์กราฟิกและเกมส์(Computer Graphics and Games)



2.ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ / ปริญญาโท[แก้]

วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ (ภายใต้การดูแลและกำกับโดยบัณฑิตวิทยาลัย)

  • หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการบริการสุขภาพ

วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ (ภายใต้การดูแลและกำกับโดยบัณฑิตวิทยาลัย)

  • หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู สาขาวิชา วิชาชีพครู
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการคุณภาพ
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารทั่วไป
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การปกครองท้องถิ่น
  • หลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการความมั่นคงปลอดภัย
  • หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการโลจิสติกส์เชิงยุทธศาสตร์
  • หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา รัฐศาสตร์

บัณฑิตวิทยาลัย[แก้]

  • หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชา วิชาชีพครู
  • หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการศึกษา
  • หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการคุณภาพ
  • หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการศึกษา
  • หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา วิชาชีพครู
  • หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการคุณภาพ
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการเทคโนโลยี
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา คณิตศาสตร์ศึกษาสารสนเทศ
  • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการและควบคุมมลพิษ

3.ระดับปริญญาเอก[แก้]

บัณฑิตวิทยาลัย[แก้]

  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา ภาษาศาสตร์
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา ปรัชญาจริยศาสตร์

วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ[แก้]

  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา นวัตกรรมการจัดการนโยบายและยุทธศาสตร์
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา นวัตกรรมการจัดการภาครัฐและท้องถิ่น
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา นวัตกรรมการจัดการภาคธุรกิจ

โครงการดุษฎีบัณฑิตการบริหารการพัฒนา[แก้]

  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การพัฒนาการเมือง)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การพัฒนาสังคม)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การบริการธุรกิจเฉพาะด้าน)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การพัฒนานักบริหารระดับสูง)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การพัฒนาการศึกษา)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การบริหารงานยุติธรรม)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (วิธีวิทยาการวิจัย)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (จิตวิทยาให้คำปรึกษา)
  • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการพัฒนา (การจัดการคุณภาพ)

สหกิจศึกษา / วิทยาเขต / ศูนย์การศึกษา การวิจัยและพัฒนา[แก้]

1.จังหวัดระนอง[แก้]

ที่ตั้ง : บริเวณด้านหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง เนื้อที่ประมาณ 128 ไร่
แนวทางพันธกิจ วิทยาเขต : วิทยาเขตแห่งนี้ เป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์การศึกษาวิจัยและพัฒนาวิชาการด้าน สุขภาพการท่องเที่ยวและการโรงแรมและที่พำนักระยะยาว สปา สมุนไพร และเป็นที่ฝึกประสบการณ์วิชาชืพ และ อนาคตทางมหาวิทยาลัยพัฒนาศักยภาพสร้างเป็นโรงแรมรีสอร์ท การพำนักระยะยาว ที่มีการสปา สมุนไพร การพยาบาล การบำบัด การดูแลสุขภาพของเข้าพำนักด้วย โดยเน้นจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณทิต สาขาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสาขาวิชาการจัดการโรงแรมและที่พัก และสาขาวิชาอื่น ๆ

2.จังหวัดนครปฐม[แก้]

ที่ตั้ง : ติดกับพื้นที่ของกันตนามูฟวี่ทาวน์ สถาบันกันตนา ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เนื้อที่ประมาณ 246 ไร่ (ไปทางทิศเหนือจาก ม.มหิดล ศาลายา เส้น ศาลายา-บางเลน ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นที่ดินได้รับการแบ่งขายส่วนหนึ่งจากกันตนา ภายใต้ความร่วมมือพัฒนาทางวิชาการของทั้ง 2 สถาบัน)
แนวทางพันธกิจ วิทยาเขต : วิทยาเขตแห่งนี้ เป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์การศึกษาวิจัยและพัฒนาวิชาการด้าน การภาพยนตร์ ศิลปะการแสดง และสื่อใหม่ โดยเน้นจัดการเรียนการสอนด้าน New Media, Animation and multi-media, and Digital content หรือด้านการสร้างภาพยนตร์ โทรทัศน์และการแสดงด้วยระบบ New Media ตลอดจนสาขาเกี่ยวกับการทำเกมส์ และ สาขาด้านอุตสาหกรรมบริการและธุรกิจการบิน เพื่อรองรับความเป็นสากลและนานาชาติ อนาคตวิทยาเขตแห่งนี้จะเป็นวิทยาเขตนานาชาติเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นที่ทำการเรียนการสอนหลักของ 2 วิทยาลัย 1 ศูนย์ คือ วิทยาลัยการภาพยนตร์ฯ วิทยาลัยนานาชาติ และศูนย์อาเซียน ซึ่งทุกหลักสูตรจะเป็นหลักสูตรนานาชาติ (ทั้งนี้เพื่อการพยายามสร้างสิ่งแวดล้อมให้เป็นประโยชน์ในการเรียนการสอนมากที่สุด)

3.จังหวัดสมุทรสงคราม[แก้]

ที่ตั้ง : ถนนพระราม 2 (ธนบุรี-ปากท่อ) กิโลเมตรที่ 58 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ (อยู่ติดถนนพระราม 2 ฝั่งรถวิ่งลงภาคใต้ ก่อนถึงตัวเมืองสมุทรสงคราม 4-5 กิโลเมตร เป็นที่ดินบริจาคจากครอบครัวสุจินตะบัณฑิต)
แนวทางพันธกิจ วิทยาเขต : วิทยาเขตแห่งนี้ อนาคตจะเป็น โรงพยาบาลสวนสุนันทาขนาด 165 เตียงเป็นเบื้องต้น และพัฒนาศักยภาพเพื่อเปิดสอนคณะแพทยศาสตร์ ราวปี พ.ศ. 2566 เป็นอย่างช้า และเป็นที่ทำการเรียนการสอนหลักของ 2 วิทยาลัยคือ วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ กับ วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ จัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และการดูแลสุขภาพ เช่น สาขาแพทย์ทางเลือก สาขาเทคนิคการแพทย์ สาขากายภาพบำบัด สาขาสาธารณสุขชุมชน สาขาเภสัชศาสตร์ สาขาชีวอนามัยและความปลอดภัย สาขาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ

4.จังหวัดอุดรธานี[แก้]

ที่ตั้ง : บ้านหนองบุ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จ.อุดรธานี เนื้อที่ประมาณ 130 ไร่ (เริ่มเปิดรับนักศึกษาปีการศึกษา 2556 และช่วงก่อสร้างอาคารเรียนยังไม่เสร็จจะไปจัดการเรียนการสอนที่ อาคารสำนักงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ชั้น 1 ถ.มุขมนตรี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี)
แนวทางพันธกิจ วิทยาเขต : วิทยาเขตแห่งนี้ เป็นความร่วมมือของ อบจ.อุดรธานี กับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เพื่อจัดการเรียนการสอนจากมหาวิทยาลัยส่วนกลางให้กับคนในพื้นที่ อุดรธานีและใกล้เคียง โดย อบจ.อุดรธานีจะลงทุนในด้านงบประมาณด้านสาธารณปโภคและอาคารสถานที่ และส่วนของหลักสูตรการศึกษาและระบบการเรียนการสอนเป็นส่วนรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา อนาคตถ้า อบจ.อุดรธานีมีศักยภาพเพียงพอ ก็จะยกระดับฐานะเป็นมหาวิทยาลัยของ อบจ. ในลำดับต่อไป

5.จังหวัดสุพรรณบุรี[แก้]

ที่ตั้ง : ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เนื้อที่ประมาณ 256 ไร่
แนวทางพันธกิจ วิทยาเขต : เน้นเปิดสอนสาขาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นเป็นหลัก อาทิ รัฐประศานศาสตร์ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ยังไม่มีแผนพัฒนาเป็นวิทยาเขตแบบสมบูรณ์เหมือน 3 วิทยาเขตข้างต้น มีอาคารปฏิบัติงานและใช้พื้นที่ในการปลูกพื้นสมุนไพร

การเดินทาง

การเดินทางมาสู่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา(กรุงเทพฯ) สามารถเดินทางมาได้ด้วยกันหลายเส้นทาง ดังนี้

เส้นถนนสามเสน[แก้]

(เกียกกาย ศรีย่าน วชิรพยาบาล สวนสุนันทา เทเวศน์ สนามหลวง)
สายรถเมล์ที่ผ่าน : 3 (หมอชิตใหม่ - คลองสาน), 9 (ท่าน้ำภาษีเจริญ - สถานีรถไฟสามเสน), 16 (อู่ศรีณรงค์ - สุรวงศ์), 30 (วัดเขมาภิตาราม - สายใต้เดิม), 32 (ปากเกร็ด - วัดโพธิ์), 33 (ปทุมธานี - สนามหลวง), 49 (หมอชิตใหม่ - หัวลำโพง), 64 (นนทบุรี - สนามหลวง), 65 (วัดปากน้ำนนทบุรี - สนามหลวง), 110 (พระราม7 - เทเวศร์), 505 (ปากเกร็ด - สวนลุมพินี), 524 (บางเขน - วัดโพธิ์)

เส้นถนนราชวิถี[แก้]

(สะพานซังฮี สวนสุนันทา เขาดิน สวนจิตรลดา อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)
สายรถเมล์ที่ผ่านคือ : 18 (ท่าอิฐ - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), 28 (หมอชิตใหม่ - สายใต้ใหม่) , 56 (วงกลมสะพานกรุงธน-บางลำภู) , 108 (รัชโยธิน - เดอะมอลล์ท่าพระ) , 125 (ศาลายา - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ),515 (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - มทร.ศาลายา), 539 (ศรีอยุธยา - อ้อมน้อย)

เส้นถนนนครราชสีมา[แก้]

(ที่ทำการพรรคชาติไทย การเรือน สวนสุนันทา หลังสวนอัมพร ครุสภา)
สายรถเมล์ที่ผ่าน : 12 (ห้วยขวาง - เศรษฐการ)

เส้นแยกเทเวศน์[แก้]

(ลงแยกเทเวศน์ เดินขึ้นมาทางทิศเหนือ หอสมุดแห่งชาติ สวนสุนันทา)
สายรถเมล์ที่ผ่าน : 23 (เทเวศร์ - สำโรง), 43 (โรงเรียนศึกษานารีวิทยา - เทเวศร์), 72 (ท่าเรือคลองเตย - เทเวศร์), 99 (เทเวศร์ - รามคำแหง), 516 (บางบัวทอง - เทเวศร์)
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารทั่วไป
  • หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การปกครองท้องถิ่น
  • หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชา บริหารธุรกิจ
  • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา ภาษาศาสตร์
  • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา ศิลปะการแสดง
  • หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชานิติวิทยาศาสตร์